วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์

อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Cyber-Crime) เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อโจมตีระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลที่อยู่บนระบบดังกล่าว อาชญากรรม 6 ประเภทดังกล่าวได้แก่

การเงิน – อาชญากรรมที่ขัดขวางความสามารถขององค์กรธุรกิจในการทำธุรกรรม อี-คอมเมิร์ซ(หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์)

การละเมิดลิขสิทธิ์ – การคัดลอกผลงานที่มีลิขสิทธิ์ ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอินเทอร์เน็ตถูกใช้เป็นสื่อในการก่ออาชญากรรม แบบเก่า โดยการโจรกรรมทางออนไลน์หมายรวมถึง การละเมิดลิขสิทธิ์ ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อจำหน่ายหรือเผยแพร่ผลงานสร้างสรรค์ที่ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์

การเจาะระบบ – การให้ได้มาซึ่งสิทธิในการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และในบางกรณีอาจหมายถึงการใช้สิทธิการเข้าถึงนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้การเจาะระบบยังอาจรองรับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ในรูปแบบอื่นๆ (เช่น การปลอมแปลง การก่อการร้าย ฯลฯ)

การก่อการร้ายทางคอมพิวเตอร์ – ผลสืบเนื่องจากการเจาะระบบ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว เช่นเดียวกับการก่อการร้ายทั่วไป โดยการกระทำที่เข้าข่าย การก่อการร้ายทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-terrorism) จะเกี่ยวข้องกับการเจาระบบคอมพิวเตอร์เพื่อก่อเหตุรุนแรงต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน หรืออย่างน้อยก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว

ภาพอนาจารทางออนไลน์ – ตามข้อกำหนด 18 USC 2252 และ 18 USC 2252A การประมวลผลหรือการเผยแพร่ภาพอนาจารเด็กถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และตามข้อกำหนด 47 USC 223 การเผยแพร่ภาพลามกอนาจารในรูปแบบใดๆ แก่เยาวชนถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย อินเทอร์เน็ตเป็นเพียงช่องทางใหม่สำหรับอาชญากรรม แบบเก่า อย่างไรก็ดี ประเด็นเรื่องวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการควบคุมช่องทางการสื่อสารที่ครอบคลุมทั่วโลกและเข้าถึงทุกกลุ่มอายุนี้ได้ก่อให้เกิดการถกเถียงและการโต้แย้งอย่างกว้างขวาง

ภายในโรงเรียน – ถึงแม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะเป็นแหล่งทรัพยากรสำหรับการศึกษาและสันทนาการ แต่เยาวชนจำเป็นต้องได้รับทราบเกี่ยวกับวิธีการใช้งานเครื่องมืออันทรงพลังนี้อย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ โดยเป้าหมายหลักของโครงการนี้คือ เพื่อกระตุ้นให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดทางกฎหมาย สิทธิของตนเอง และวิธีที่เหมาะสมในการป้องกันการใช้อินเทอร์เน็ตในทางที่ผิด

จะทำอะไรก็ให้ระวังๆ กันหน่อยนะ อย่าทำอะไรที่มันผิดศีลธรรมละกันนะจ๊ะเพื่อนๆ

วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Expansion Slot

เมื่อวานเรียนวิชา Data Com. แล้วมีสไลด์หนึ่ง
เป็นสไลด์ที่มีรูปของ โมเดมแบบ internal ซึ่งใช้เสียบกับ
Mainboard โดยตรง
วันนี้เลยขอเสนอเรื่องเกี่ยวกับExpansion Slot ต่างๆ ในMainboard ละกัน

ก่อนอื่นมาดูก่อนว่าทำไมต้องมี Expansion Slot
สาเหตุที่ต้องมี
Expansion Slot ไว้ก็เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มอุปกรณ์เสริม
ต่างๆที่ต้องการได้ เช่น การ์ดจอ โมเดม การ์ดแลน ฯลฯ

สำหรับ slot ที่ใช้นั้นมีหลายประเภท ดังนี้

ISA (Industry Standard Architecture) เป็นระบบบัสที่ถูกพัฒนามาแรกสุด มีความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลไม่มาก ความเร็วในการส่งผ่านข้อมูล 8 MHz และความกว้างของบัสเพียง 16 บิต แต่ถ้าเป็น EISA(Extended Industry Standard Archtecture) ก็จะขยายเป็น 32 บิต เนื่องจาก ISA เป็นมาตรฐานที่มีความเร็วช้า Mainboard บางรุ่นที่ออกมใหม่จึงไม่มี ISA Slot ซึ่งการ์ดขยายต่าง ๆ ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นแบบ PCI ซึ่งมีความเร็วที่สูงกว่าและราคาไมแพง

(ISA ที อ.วี พูดก็คือไอ้นี่ละ)

PCI (Petipheral Component Inteconnect) เป็นระบบบัสที่มีความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลสูง โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 33 MHz (โดยปกติถ้าหาก Front Side Bus 100 MHz, PCI จะทำงานที่ความเร็ว 100/3 = 33.3 MHz) และมีความกว้างของบัสเป็น 32 บิต ในบางรุ่นมีการพัฒนา Chipset ที่สนับสนุนความสามารถให้ทำงานที่ 64 บิต และวิ่งที่ความเร็วบัส 66 MHz ซึ่งจะได้ค่า Bandwidth ที่สูงขึ้น (เป็น 4 เท่าจากเดิม) ซึ่งมีค่าสูงสุดอยู่ที่ 532 MBps อย่างไรก็ตาม ยังมีมาตรฐานที่ขยายให้มีความเร็วสูงขึ้นกว่าเดิม เรียกว่า PCI-X มีความเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 66 MHz ทำให้มีความเร็วเพิ่มขึ้นมาก คือ จะทำงานที่ความเร็วสูงสุด 133 MHz และส่งผ่านข้อมูล 64 บิต ทำให้ได้ Bandwidth ที่มากขึ้นจากเดิม 2 เท่า คือ 1.06 GB per Second

AGP (Accelerated Graphics port)
เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อระหว่างการ์ดจอภาพและแผงวงจรหลักที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน โดยมีความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลแบบ 32 บิต และวิ่งที่ความเร็ว 66 MHz หรือเท่ากับ 2 เท่าของระบบบัสแบบ PCI ทั่วไป จึงเหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลสูง นอกจากนี้ระบบ AGP ยังมีการทำงานเป็นโหมด X, 2X, 4X ซึงตัวเลขที่แสดงอยู่ข้างหน้า X หมายความว่า มีความเร็วเป็นกี่เท่าของความเร็วพื้นฐาน (66 MHz) เช่น ความเร็ว 2X หมายความว่ามีความเร็ว 4 เท่าของ PCI แบบธรรมดา จะมีความเร็วเท่ากับ 133 * 4 MBps ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่าแผงวงจรหลักต้องสนับสนุน

AMR (Audio/Modem Riser)
เป็นช่องขยายเพื่อรองรับอุปกรณ์ Modem หรือ Audio ต่าง ๆ ซึ่งอุปกรณ์สำหรับ AMR ราคาจะถูกกว่าแบบ PCI

------------------------------------------

ส่วนใหญ่ที่บ้านเห็นแต่ PCI เพราะ คอมฯเก่า --"

โทโพโลยี (Topology)

โทโพโลยี หมายถึง รูปแบบการจัดวางคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ การเดินสายสัญญาณรวมถึงการไหลเวียนข้อมูลในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะกล่าวถึงใน 2 ลักษณะ คือ โทโพโลยีทางตรรกะ (logical topology) และโทโพโลยีทางกายภาพ (physical topology)
โทโพโลยีทางกายภาพ หมายถึงการเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์ทั้งหมดในเครือข่ายจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ หรือสายเคเบิล ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงทางวงจรอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนโทโพโลยีทางตรรกะ จะแสดงถึงการเชื่อมโยงระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ของเครือข่ายเป็นในลักษณะของแผนภาพ ซึ่งเป็นการมองที่วิธีการส่งข้อมูลภายในเครือข่ายว่าเป็นอย่างไร โทโพโลยีแบบหนึ่งอาจจะรับส่งไฟล์ขนาดใหญ่ได้ดี แต่อีกแบบอาจจะเหมาะสมกับการรับส่งไฟล์ขนาดเล็กที่วิ่งไปมาบ่อย ๆ ได้ดี การติดต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อการรับส่งข้อมูลในระดับนี้จะใช้สัญญาณไฟฟ้า โดยสัญญาณนี้จะวิ่งบนสื่อกลางที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน แต่สัญญาณอาจจะใช้เส้นทางแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อของเครือข่ายว่าเป็นอย่างไร
การติดตั้งเครือข่ายโดยส่วนใหญ่มักจะใช้โทโพโลยีทางกายภาพ และทางตรรกะที่สอดคล้องกัน แต่ก็มีบางองค์กรที่ใช้แตกต่างกันไป เช่น ใช้โทโพโลยีทางตรรกะแบบวงแหวน แต่ทางกายภาพแบบดาว เป็นต้น

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ระวังภัย Bot ระบาดหนัก


Bot เป็นภัยคุกคามที่ระบาดหนักอย่างหนึ่งในกลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะผู้ที่เข้าไปใช้งาน
อินเทอร์เน็ต เจ้า Bot นี้จะสร้างความรำคาญใจ โดยหลอกเราว่าเครื่องเราติดไวรัส เวิร์ม และมัลแวร์อื่น ๆ
เพื่อให้เราซื้อสินค้าของเขามาใช้งาน ภัยคุกคามเช่นนี้ เราจึงควรรู้เท่าทัน จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อง่าย ๆ

มาทำความรู้จักกับ Bot กันเถอะ

Bot เป็นคำที่ย่อมาจากคำว่า “Robot” ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ทำงานในลักษณะที่เรียกว่า Agent
โดยจะรอคำสั่งจากเครื่องหรือโปรแกรมอื่นที่สั่งหรือปลุกให้เครื่องที่มี Bot ติดตั้งอยู่ทำงาน ถ้าเครื่อง
ของเราถูก Bot ติดเข้าไป เครื่องของเราก็จะถูกโปรแกรมหรือบุคคลอื่น ๆ สั่งงานให้ทำงานอย่างใด
อย่างหนึ่งตามเจ้านายหรือบุคคลสั่ง เช่น ให้ส่งข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นชื่อ นามสกุล
หรือข้อมูลบัตรเครดิต รวมไปถึงการเก็บข้อมูลจากการที่เรากดแป้นคีย์บอร์ด นอกจากนี้ยังจะบันทึก
หรือส่งข้อมูลต่าง ๆ มาเก็บที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตกเป็นเหยื่ออีกด้วย

เชื่อหรือไม่ว่า จากผลสำรวจทั่วโลกพบว่า มีเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อของเจ้า Bot นี้มากกว่า 6 ล้านเครื่อง
เลยทีเดียวและส่วนใหญ่ Bot เหล่านี้ก็จะมาจากการที่เราเข้าไปใช้งานอินเทอร์เน็ต เช่น การดาวน์โหลด
ไฟล์ การรับ-ส่งอีเมล การเล่นเกมออนไลน์ ซึ่งการที่เราเข้าไปยังเว็บที่มี Bot ติดอยู่ก็จะทำให้เราติด Bot
นี้ไปด้วย

มาดูตัวอย่างของ Bot กัน

“AntiSpyCheck” Bot หรือ Malware ตัวนี้จะคอยหลอกว่าเครื่องของเรามีไวรัส หรือมัลแวร์
และชักชวนให้เราติดตั้งหรือสแกนแบบออนไลน์ ซึ่งหากเราหลงเชื่อ คลิกตอบตกลงแล้วล่ะก็ มันจะติด
ตั้งโปรแกรมของมันที่เครื่องของเราทันที และจะแจ้งว่าเครื่องเรามีทั้งไวรัส มัลแวร์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะ เป็นเวิร์ม
โทรจัน และอื่น ๆ และยังแจ้งว่ามีบุคคลอื่น ๆ กำลังแอ็กเซสเครื่องของเราเพื่อดึงข้อมูลส่วนตัวของเรา
ถ้าหากเราไม่ซื้อสินค้าของเขามาใช้งานมันก็จะเตือนเราเรื่อย ๆ สร้างความรำคาญใจอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้เครื่องเราจะมีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสติดตั้งอยู่ ก็ ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

แล้วเราจะกำจัดเจ้า Bot นี้ออกไปได้อย่างไร

วิธีการก็คือ การ Remove แบบ Manual โดยการลบและแก้ไขค่าต่าง ๆ ที่รีจีสทรี ซึ่งเป็นวิธีการ
ที่ยาวมาก ต่อมาได้พบวิธีการที่ง่ายกว่าเดิม และมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม นั่นคือ การใช้เครื่องมือ
เข้ามาช่วยดักจับพวก Bot หรือ Malware ต่าง ๆ โดยเครื่องมือเหล่านี้จะเป็นส่วนที่เข้าเสริมการทำงาน
ในการตรวจจับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะไปรบกวนหรือมีผลกับแอนตี้ไวรัส ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องเรา
ก่อนหน้านี้ ซึ่งสามารถหาดาวน์โหลดได้ตามอินเทอร์เน็ตเช่น Norton AntiBot เมื่อเราติดตั้งแล้ว
เหมือนเพิ่มกำแพงให้เครื่องเราป้องกันไวรัสได้อีกชั้นนึง ทำงานร่วมกันโปรแกรม anti virus ที่มีอยู่แล้วใน
เครื่องของเราได้ทันที ที่สำคัญตัวไม่ใหญ่ และไม่กินทรัพยากรเครื่อง

ซอฟต์แวร์ป้องกันโน้ตบุ๊กถูกขโมย


ปัญหาโน้ตบุ๊กถูกโจรกรรมเกิดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามอัตราผู้ใช้โน้ตบุ๊กที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งราว
กระเป๋าโน้ตบุ๊ก การทุบรถเพื่อขโมยโน้ตบุ๊ก โดยเฉพาะการขโมยโน้ตบุ๊กตามสถานศึกษา

ในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า มีโน้ตบุ๊กสูญหายกว่า 6 แสนเครื่องต่อปี โดยมียอดรวมโน้ตบุ๊กหาย ในปีที่ผ่านมามีมูลค่าสูงกว่า 120 ล้านบาท แต่หากคำนวณถึงมูลค่าความเสียหายที่เกิดกับข้อมูลสำคัญ ภายในโน้ตบุ๊กจะพบว่ามีมูลค่ามากกว่า 1,500,000 บาทเลยทีเดียว ที่น่าวิตกกังวลก็คือ ผลสำรวจจาก FBI พบว่า 97 เปอร์เซ็นต์ของน็ตบุ๊กที่หายไปนั้นไม่มีโอกาสได้กลับคือ เพราะเป็นปัญหาที่ไม่อาจนิ่งเฉยได้ ในต่างประเทศจึงมีการผลิตซอฟต์แวร์ป้องกันการโจรกรรมโน้ตบุ๊กขึ้นมา ซึ่งเรานำมาแนะนำ 2 ผลิตภัณฑ์ ด้วยกัน

•ซอฟต์แวร์ LOJack เวอร์ชันสำหรับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ซึ่งผลิตโดยบริษัท Absolute Software ซึ่งมีค่าบริการปีละประมาณ 1,200 บาทต่อเครื่อง ระบบป้องกันความปลอดภัยของโปรแกรมนี้ ทำงานบนพื้นฐานของการใช้รหัสผ่าน ควบคู่ไปกับ ความสามารถในการระบุตำแหน่งเครื่อง ที่ถูกขโมย โดยผู้ที่ใช้ LOJack จะได้โปรแกรม Computrace ซึ่งเป็นโปรแกรมรักษาความ ปลอดภัยไว้ใช้งานด้วย ทำให้สามารถติดตามโน้ตบุ๊กที่ถูกขโมยไปได้ นอกจากนี้ตัวโปรแกรม ยังสามารถช่วยป้องกันการก่อความเสียหายจากการโขมยได้โดย การลบข้อมูลและโปรแกรม ในฮาร์ดดิสก์ทั้งหมดทิ้งได้หากเจ้าของเครื่องมีความประสงค์ในการลบข้อมูลทิ้ง เจ้าหน้าที่ Absolute ก็สามารถส่งคำสั่งกลับไปยังเครื่องเพื่อดำเนินการได้อีกด้วย
มหาวิทยาลัย William Penn ได้เริ่มใช้โปรแกรมนี้ และพบว่าสามารถติดตามเครื่องโน้ตบุ๊ก ของนักศึกษาคนหนึ่งที่ถูกโจรกรรมไปกลับมาได้ภายใน 1 สัปดาห์ เนื่องจาก โปรแกรม Computrace นั้นทำงานเหมือน Digital Security Cable เมื่อโน้ตบุ๊กถูกขโมยและถูกต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต โปรแกรม Computrace จะแอบส่งข้อมูลกลับมายังสำนักงานของ Absolute ทุก ๆ 15 นาทีเพื่อระบุตำแหน่ง ของตัวเอง โดยที่คนร้ายจะไม่สามารถตรวจจับได้

•ซอฟต์แวร์ CyberAngel Security และ Laptop Licks เป็นโซลูชันการติดตามและจัดการ กับโน้ตบุ๊กที่ถูกขโมย ซึ่งผู้ใช้งานโน้ตบุ๊กต้องใส่รหัสผ่านก่อนเข้าใช้งานเสมอ และจะมีรหัสอีก 2 ชั้นในการป้องกัน และหากใคร Login ไม่ผ่านในแต่ละขั้นตอนตามที่กำหนดไว้จะถูกปฏิเสธการ เข้าใช้ไฟล์ทันที
สำหรับโปรแกรมนี้ได้ถูกนำไปใช้ในมหาวิทยาลัย Toledo และ Brown หลังจากที่โน้ตบุ๊กซึ่งมีข้อมูล
สำคัญกว่า 1,000 รายการเกี่ยวกับข้อมูลคณะและศิษย์เก่าหายไป 2 เครื่อง

นับเป็นโซลูชันที่น่าสนใจและน่าจะช่วยให้ผู้ใช้โน้ตบุ๊กได้อุ่นใจว่าข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ที่เราบันทึกไว้
จะไม่ตกไปอยู่ในมือคนอื่นง่าย ๆ นอกจากการใช้ซอฟต์แวร์แล้ว ผู้ใช้เองก็ต้องเพิ่มความระมัดระวัง ด้วย
การแบ็กอัพข้อมูลสำคัญ ๆ เก็บไว้เสมอ เพื่อบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหากโน้ตบุ๊ก ถูกขโมยไป

ทั้งนี้หากโน้ตบุ๊กของคุณถูกขโมย อาจติดตามโน้ตบุ๊กโดยการลองเซิร์สหาตามเว็บไซต์ประกาศ
ขายโน้ตบุ๊กมือสอง เผื่อว่าจะเจ้าหัวขโมยจะนำเครื่องโน้ตบุ๊กของคุณไปขาย หรือหากโน้ตบุ๊กของคุณ
ยังอยู่ในประกัน ลองแจ้งไปที่ศูนย์บริการว่าโน้ตบุ๊กคุณถูกขโมย เผื่อจะเป็นโชคร้ายของเจ้าหัวขโมย
ที่นำเครื่องเข้าศูนย์ซ่อมก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ...การป้องกันไว้ก่อน ย่อมเป็นการดีที่สุด

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

Keyboard Blonder









สีชมพู สวยๆๆ

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

What is WeBlog ?

Blog มาจากศัพท์คำว่า WeBlog บางคนอ่านคำ ๆ นี้ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองคำบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน คือ บล็อก (Blog) ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะสามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า blog เป็นได้แค่ไดอารี่ออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไดอารี่ออนไลน์เปรียบเสมือน เนื้อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้อหาที่หลากหลายประเภท ตั้งแต่การบันทึกเรื่องส่วนตัวอย่างเช่นไดอารี่ หรือการบันทึกบทความที่ผู้เขียนบล็อกสนใจในด้านอื่นด้วย อีกทั้งยังสามารถแตกแขนงไปในเนื้อหาในประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย ตามแต่ที่เจ้าของบล็อกจะเป็นคนที่ถนัดในด้านไหน ก็มักจะเขียนบทความเรื่องที่ตนเองถนัด หรือสนใจเป็นต้นและจุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ สามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทางระบบ comment ของบล็อกนั่นเอง ในอดีตแรกเริ่ม คนที่เขียน Blog นั้นยังทำกันในระบบ Manual คือเขียนเว็บเองทีละหน้า แต่ในปัจจุบันนี้ มีเครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ให้เราใช้ในการเขียน Blog ได้มากมาย เช่น WordPress, Movable Type เป็นต้น เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา Blog เริ่มต้นมาจากการเขียนเป็นงานอดิเรกของกลุ่มสื่ออิสระต่าง ๆ หลาย ๆ แห่งกลายเป็นแหล่งข่าวสำคัญให้กับหนังสือพิมพ์หรือสำนักข่าวชั้นนำ จวบจนกระทั่งปี 2004 คนเขียน Blog ก็ได้รับการยอมรับจากสื่อและสำนักข่าวต่าง ๆ ถึงความรวดเร็วในการให้ข้อมูลตั้งแต่เรื่องการเมืองไปจนกระทั่งเรื่องราวของการประชุมระดับชาติ และจากเหตุการณ์เหล่านี้ นับได้ว่า Blog เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจาก วีดีโอ , สิ่งพิมพ์ , โทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งวิทยุ เราสามารถเรียกได้ว่า Blog ได้เข้ามาเป็นสื่อชนิดใหม่ที่สำคัญอย่างแท้จริง ทำไม Blog ถึงได้รับความนิยมอย่างมากความสะดวกและง่ายดายของการเขียนบล็อกหรือสร้างบล็อกขึ้นมาสักหนึ่งแห่ง ทำให้ผู้คนนับล้านได้ทำการเขียนและเผยแพร่ความคิดของตนได้ง่าย และ นอกเหนือจากนั้นยังมีความคิดเห็น อีกนับล้านจากคนอ่านที่เข้ามา Comment หรือตอบกลับในบล็อกเหล่านั้น ทำให้มีการโต้ตอบกันทางความคิด (interactive) ซึ่งตอบโจทย์เรื่องการสื่อสารระหว่างคนเขียนและคนอ่านได้เป็นอย่างดีดังนั้น Blog จึงเปรียบเสมือนเป็นสื่ออีกชนิดหนึ่ง กลายเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่เราไม่สามารถมองข้ามมันได้ ด้วยความฉับไวของข้อมูลใน Blog อีกทั้งยังเป็นข้อมูลที่ใหม่สด บางครั้ง ข้อมูลจาก Blog เป็นข้อมูลที่ไม่เคยปรากฎณ์ที่ไหนมาก่อนอีกด้วยที่สำคัญที่สุดคือ Blog ทำให้ผู้คนสามารถมีสิทธิ์มีเสียง และเขียนถึงเรื่องราวและบทความต่าง ๆ ได้ง่าย
ที่มา : www.bloggang.com

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

PC lve. Mac

ช่วงนี้เห็นในห้องเรียนเรามีคนมีความรักกันเยอะ และก็พอดี
เห็นบทความข้างล่างก็กำลังอินเลิฟอยู่
ไหนๆ ก็ ไหนๆ ขอเกาะติดกระแสความรักไปด้วยคนละกัน

โดยผ่านหนังสั้นเรื่องนี้... ^^
(PCชื่อMicเป็นผู้บ่าว Macเป็นผู้สาว)




----------------------------------

ขอให้ความรักบังเกิดบนโลกใบนี้เยอะๆ

วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

20 วลี "รัก" (Meaning of love)

สวัสดีเพื่อนๆ และอาจารย์ที่เคารพ วันนี้ก็ขอน้ำเน่าอีกซักที มาพบกับ 20 วลี ของคำว่า"รัก"

สิ่งที่สวยงามที่สุดมิอาจสัมผัสได้โดยทางกาย แต่ทว่าต้องรับรู้ผ่านหัวใจ

เมื่อคุณรักใครสักคน...คุณจะทำทุกอย่างเพื่อชนะใจเขา

เมื่อมีรักแท้...คุณก็พร้อมที่จะไปตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ

เมื่อคุณอยู่ในห้วงแห่งรัก...ชีวิตก็เหมือนดั่งนิยายที่คุณอ่านไม่จบ

ความรักที่แท้จริงก็เหมือนการต่อจิ๊กซอว์ ชิ้นส่วนทั้งหมดจะสามารถค้นพบตัวเองได้ ก็ต่อเมื่อแต่ละชิ้นสามารถหาชิ้นที่
"ใช่"สำหรับตัวมันเอง

ชีวิตช่างงดงามนัก เมื่อมีคุณอยู่เคียงข้างกัน

อันความรักไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้มา และมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะรักษาความรักนั้นให้อยู่เป็นนิรันดร์

การได้รักเป็นเพียงความว่างเปล่า การถูกรักเป็นเพียงแค่บางสิ่งบางอย่าง แต่การได้รักและการถูกรักเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง

ได้มีรักและสูญเสียมันไป ยังดีกว่าไม่รู้จักความรักเลย

การได้คิดถึงใครสักคนที่รัก ทำให้ชีวิตสว่างไสว

ความรักคือการ"ให้"

เมื่อคุณรักใครสักคน จงบอกเขา บอกไปเลยดังๆ ว่า คุณรักเขามากมายแค่ไหน อย่าปล่อยจนถึงวันที่เขาไม่อยู่ให้คุณบอกรัก

ความรักคือการรวมจิตวิญญาณของคนสองคนให้เป็นหนึ่ง

ถ้าฉันสามารถหยุดหัวใจเพียงหนึ่งเดียวนี้ไม่ให้แตกสลายได้ ฉันก็คงไม่อยู่อย่างว่างเปล่าเช่นนี้

ถ้าคุณรักใครสักคน จงปล่อยให้เขาเป็นอิสระ เพราะถ้าคู่กันแล้ว ยังไงซะเขาก็เป็นของคุณ

คำว่ารักใครก็พูดได้ แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ"รัก"ที่รักจริงๆจากหัวใจ

ความรักรังสรรค์ความสุข แต่บ่อยครั้งก็สร้างความเจ็บปวด ทว่า...เมื่อคุณให้ความรักแก่คนที่สมควรจะได้รับ ความรักนั้นจะมีค่ามากมาย

ความรักไม่มีกฎเกณฑ์บังคับ ไฉนเราจะบังคับคนที่กำลังมีความรักได้

ความรักที่แท้จริงเป็นอมตะ

บางคนคิดว่าการได้ครอบครองในสิ่งที่รักจะทำให้รู้สึกมั่นคงในรัก แต่บางทีการให้อิสระอาจมีค่ามากกว่านั้น

ใครกำลังอยู่ในห้วงไหนก็ขอให้เก็บไปคิดดู แล้วก็ขอให้โชคดีในความรักทุกคนนะ

ทีมา : Do you know ? vol 1. รู้ป่ะ เล่ม1

วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

กินเหล้าเมา=เล่นโยคะ ๐_๐!!

ถ้าไม่เชื่อก็ลองเทียบดูได้
ภาพซ้ายเป็นท่าโยคะ ภาพขวาเป็นคนมาว~~~ @~@









____________________________
ผู้โพสต์ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ --"

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

กล้าที่จะเสี่ยง..

สวัสดีครับ อาจารย์ และเพื่อนๆทุกคน ^^
นี่เป็นบทความแรกของเทอมนี้
สำหรับบทความแรก
ขอเอาบทความที่น่าจะช่วยปลุกใจหลายๆคนได้
มาลงละกัน

กล้าที่จะเสี่ยง..

การร้องไห้ คือ การเสี่ยงที่จะถูกมองว่าเป็นคนที่อ่อนไหว
การเข้าไปหาผู้อื่น คือ การเสี่ยงที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้อื่น
การตั้งเป้าหมายต่อหน้าผู้อื่น คือ การเสี่ยงที่จะถูกหัวเราะเยาะ
การแสดงความรู้สึกให้ผู้อื่นรับรู้ คือ การเสี่ยงที่จะได้รับคำปฏิเสธ
การรักใครสักคน คือ การเสี่ยงที่จะไม่ได้รับความรักตอบแทน
การก้าวเดินไปข้างหน้าที่เต็มไปด้วยสิ่งใหม่ๆ คือ การเสี่ยงที่ต่อความผิดพลาด

แต่เราก็ควรที่จะเสี่ยงในสิ่งต่างๆเหล่านี้
เพราะบุคคลที่ไม่เสี่ยงสิ่งใดเลย
, จะไม่ได้ทำสิ่งใดเลย
, จะไม่มีสิ่งใดเลย
และ จะไม่ได้เป็นอะไรเลย

เขาอาจจะหลีกหนีจากความทุกข์ยาก
และความเศร้าโศกจากการผิดหวังได้้ แต่..ก็จะไม่ได้เรียนรู้
, ไม่ได้รู้สึก
, ไม่ได้เปลี่ยนแปลง
, ไม่ได้เติบโต และไม่ได้รู้จักความรักเลย

เขาจะถูกล่ามโซ่ไว้กับสิ่งที่เขากังวลและความไม่กล้าเสี่ยงนั้น
จะมีเพียงแต่บุคคลที่กล้าเสี่ยงเท่านั้น ที่จะมีอิสระทำสิ่งต่างๆได้

--------------------------------------------------------
ขอให้ทุกคนมีความกล้าที่จะเผชิญกับความเสี่ยงครับ

การจัดการทรัพยากรดิน

>>เอามาเป็นไกด์ให้เพื่อนๆทำการบ้านส่งอาจารย์กันนะจ๊ะ

การจัดการทรัพยากรดิน
ในช่วงระยะเวลา ๒๐ ปีที่ผ่านมา การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และรายได้ของประเทศมาจากการขยายพื้นที่การเพาะปลูก มากกว่าการเพิ่มผลผลิตต่อหน่วยพื้นที่ จนถึงขณะนี้ประมาณได้ว่าพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการเกษตรกรรมได้ใช้ไปจนเกือบ หมด และเกษตรกรพยายามหาพื้นที่ใหม่ด้วยการอพยพโยกย้ายกระจัดกระจายเข้าไปอยู่ใน เขตป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายเพิ่มจำนวนมากขึ้น เพราะมีการใช้ที่ดินกันอย่างขาดความระมัดระวังและไม่มีการบำรุงรักษา ซึ่งทำให้คุณภาพของดินเสื่อมโทรมทั้งด้านเคมีและกายภาพ
ปัญหาเหล่านี้หากไม่ได้รับการแก้ไขย่อมส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศเป็น อย่างมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีแนวพระราชดำริเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องของทรัพยากรที่ดิน ทั้งในแง่ของปัญหาดินที่เสื่อมโทรม ขาดคุณภาพ และการขาดแคลนที่ดินทำกินสำหรับเกษตรกร แนวพระราชดำริและพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรที่ดินสามารถแบ่ง ได้เป็น ๓ ด้านหลัก ได้แก่
๑) การจัดและพัฒนาที่ดิน
๒) การพัฒนาและอนุรักษ์ดิน
๓) การดำเนินการเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดิน "ป่าเตรียมสงวน"

มารยาทในการฟัง

>>>อันนี้เป็นเรื่องที่ทุกๆคนก็รู้อยู่แก่ใจแต่บางครั้งก็ทำไม่ได้ เลยอยากเตือนสติกันสักหน่อยน้าา^^

ผู้มีมารยาท ในการฟังควรปฏิบัติตน ดังนี้

1. เมื่อฟังอยู่เฉพาะหน้าผู้ใหญ่ ควรฟังโดยสำรวมกิริยามารยาท ฟังด้วยความสุภาพเรียบร้อย และตั้งใจฟัง
2. การฟังในที่ประชุม ควรเข้าไปนั่งก่อนผู้พูดเริ่มพูด โดยนั่งที่ด้านหน้าให้เต็มก่อนและควรตั้งใจฟังจนจบเรื่อง
3. จดบันทึกข้อความที่สนใจหรือข้อความที่สำคัญ หากมีข้อสงสัยเก็บไว้ถามเมื่อมีโอกาสและถามด้วยกิริยาสุภาพ เมื่อจะซักถามต้องเลือกโอกาสที่ผู้พูดเปิดโอกาสให้ถาม หรือยกมือขึ้นขออนุญาตหรือแสดงความประสงค์ในการซักถาม ถามด้วยถ้อยคำสุภาพ และไม่ถามนอกเรื่อง
4. มองสบตาผู้พูด ไม่มองออกนอกห้องหรือมองไปที่อื่น อันเป็นการแสดงว่าไม่สนใจเรื่องที่พูด และไม่เอาหนังสือไปอ่านขณะที่ฟัง หรือนำอาหารเครื่องดื่มเข้าไปรับประทานระหว่างฟัง
5. ฟังด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเองกับผู้พูด แสดงสีหน้าพอใจในการพูด ไม่มีแสดงกิริยาก้าวร้าว เบื่อหน่าย หรือลุกออกจากที่นั่งโดยไม่จำเป็นขณะฟัง
6. ฟังด้วยความสุขุม ไม่ควรก่อความรำคาญให้บุคคลอื่น ควรรักษามารยาทและสำรวมกิริยา ไม่หัวเราะเสียงดังหรือกระทืบเท้าแสดงความพอใจหรือเป่าปาก
7. ฟังด้วยความอดทนแม้จะมีความคิดเห็นขัดแย้งกับผู้พูดก็ควรมีใจกว้างรับฟังอย่างสงบ
8. ไม่พูดสอดแทรกขณะที่ฟัง ควรฟังเรื่องให้จบก่อนแล้วค่อยซักถามหรือแสดงความคิดเห็น
9. ควรให้เกียรติวิทยากรด้วยการปรบมือ เมื่อมีการแนะนำตัวผู้พูด ภายหลังการแนะนำ และเมื่อวิทยากร พูด จบ


รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้
คนเราไม่ค่อยมีมารยาทในการฟังกันสักเท่าไหร่
1. ในห้องเรียน ไม่ฟังอาจารย์สอน แถมยังเล่นกันอีก (อันนี้เราเป็น)
2. เพื่อนคุยกกันอยู่เราไปพูดแทรก อันนี้อาจไม่เท่าไหร่ ถ้าเราสนิทกัน แต่บางทีคุยกับเพื่อนในเรื่องที่สำคัญๆ มีคนมาพูดแทรกอาจลืม หรือความลับแพร่งพราย


ปล. โพสเรื่องนี้แก้ตัวอาทิตย์ที่แล้วที่ไม่ได้โพสนะจ๊ะ

วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

3 things in life

3 สิ่งในชีวิต ที่พวกเราทุกคนจะต้องมีและจะต้องเจอ
ความไม่แน่นอนในชีวิต 3 สิ่ง คือ
ความฝัน
ความสำเร็จ
โชคชะตา

3 สิ่งที่ควรจะมีในชีวิต คือ
ความสงบ
ความซื่อสัตย์
ความหวัง

3 สิ่งที่มีค่าในชีวิต คือ
ความรัก
เคารพตัวเอง
เพื่อนแท้

3 สิ่งในชีวิตที่ไม่สามารถเรียกร้องกลับคืนมาได้อีก
คำพูด
เวลา
โอกาส

3 สิ่งที่บ่อนทำลายชีวิต
ความหยิ่งผยอง
สุรา (หึ หึ)
ความโกรธ

สุดท้ายนี้ ขอฝากไว้ว่า
ความคิดดี เปรียบเหมือน รากไม้
คำพูดดี เปรียบเหมือน ดอกไม้บานสะพรั่ง
การกระทำดี เปรียบเหมือน ผลไม้
จิตใจดี เปรียบเหมือน สวน ที่ใครๆ ก็อยากเข้ามาพักผ่อน

ที่มา : หนังสือ Do you know vol 1. รู้ป่ะ เล่ม 1
Kattalee Gurukul 5015022

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ยินดีต้อนรับ สู่การเรียนรู้ รายวิชา ENST334

สวัสดีคะ ลูกศิษย์ ทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ การเรียนรู้อีกวิชา ของ สาขา ESi
อย่าลืมการประเมินของวิชานี้นะจ้ะ
- ความสนใจและการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน ร้อยละ ๑๐
- สอบข้อเขียน (สอบปลายภาค) ร้อยละ ๓๐
- การมีส่วนร่วมในการอภิปรายกลุ่มย่อย ร้อยละ ๑๐
- การทดสอบย่อย / แบบฝึกหัด ร้อยละ ๒๐
- รายงานและการนำเสนอรายงาน ร้อยละ ๓๐
ขอให้สนุกสนานกับการเรียนรู้นะจ้ะ
รักทุกคน ...
อาจารย์จงดี